ช่วงศตวรรษที่  19   เหล่าขุนนางอังกฤษมีการค้นคว้าเพื่อให้ได้สุนัขล่าสัตว์ที่สมบูรณ์แบบ นี่คือ จุดประสงค์ของการเพาะพันธุ์ สุนัขในกลุ่มรีทริฟเวอร์และสุนัขที่ใช้ในการล่าสัตว์อื่น ๆ ในทุกวันนี้   ซึ่งส่วนใหญ่มีบรรพบุรุษมาจากผลผลิตของความพยายามในการคัดสายพันธุ์ยุคแรก ๆ ของสุนัขต้นแบบ  หลายคนพยายามที่จะให้ได้สุนัขเช่นนี้  โดยมีการเพาะพันธุ์อย่างพิถีพิถัน  โดยใช้การผสมแบบ Out  Breed  คือ  การผสมพันธุ์ในลักษณะไม่มีความสัมพันธ์กันเลย หรือญาติห่างกันมาก ๆ  การผสมแบบนี้นักผสมพันธุ์โดยมากจะใช้ในกรณีที่ต้องการเสริมคุณสมบัติบางประการในตัวหนึ่ง  ไปอีกตัวหนึ่ง  ผลผลิตที่ออกมายากแก่การคาดการณ์ได้   ดังนั้น  นักผสมพันธุ์ต้องมีความชำนาญ และรู้จักคัดเลือก  เพื่อให้ผลผลิตที่ออกมาใกล้เคียงกับความคาดหวังมากที่สุด   เหมาะที่จะเก็บไว้ผสมพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป  บางครั้งก็สำเร็จ หลายครั้งก็ล้มเหลว  ทำให้บรรพบุรุษจริง ๆ ของสุนัขรีทริฟเวอร์หลายพันธุ์ไม่ชัดเจน   เหมือนกับไม่มุ่งหวังผลมากมาย  บางครั้งเหมือนเป็นวิธีที่ยังปกปิดอยู่ ทำให้ไม่เป็นที่รับรู้ และไม่มีการนำมาเผยแพร่ให้เกิดประโยชน์ภายหลัง   นอกจากให้คนรุ่นหลังตามสืบค้นจากหลักฐานเท่าที่หาได้ตามมี  ตามเกิด  เมื่อเปรียบเทียบกับโกลเด้นรีทริฟเวอร์ดั้งเดิมซึ่งมีการพัฒนาสายด้วยความรอบคอบ โดย เซอร์ดัดเลย์เมร์เจอร์ ไรแบงคส์(ภายหลังได้เลื่อนชั้นเป็น ลอร์ด  ทวีดเมาท์)  ซึ่งมุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้ได้สุนัขที่ช่วยในการล่าสัตว์ที่ดีเยี่ยม

     จากเรื่องเล่าอันน่าตื่นเต้นที่เขาได้ยินมา ทำให้เขาตัดสินใจ  ซื้อสุนัขจากละครสัตว์รัสเซีย  ด้วยราคาค่อนข้างแพง สุนัขตัวนี้มีส่วนสูงวัดจากพื้นถึงไหล่ได้ 30 นิ้ว  ฉลาด  เป็นสุนัขที่เป็นต้นแบบแห่งการพัฒนาสายเลือด เรื่องนี้มีปรากฏในหนังสือประจำปี ชมรมผู้เลี้ยงโกลเด้น รีทริฟเวอร์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1950 จากหลักฐานที่มีอยู่ในหนังสือหลายเล่ม  และข้อมูลที่เผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต พอจะสรุปได้ว่า โกลเด้นรีทริฟเวอร์ ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ในประเทศอังกฤษ เมื่อปี 1800   ( บางเล่มบอกว่า ระหว่างปี  ค.ศ. 1835 - 1890 ) โดย  ลอร์ด  ทวีดเมาธ์  เป็นการผสมข้ามพันธุ์ของสุนัขพันธุ์ ทวีดวอเตอร์สแปเนี่ยน , พันธุ์นิวฟาวแลด์ ,   พันธุ์ไอริชเชตเตอร์  และสุนัขกลุ่ม สแปเนี่ยนเพื่อให้ได้สุนัขที่ทนกับอากาศ และสามารถว่ายในน้ำเย็น ๆ ได้  เชื่อกันว่า เพื่อให้มีความคล่องตัวในเกมกีฬาไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ หรือทางบก ลอร์ดทวีดเมาธ์ ผู้พัฒนาสายพันธุ์พำนักอยู่ที่ อิน  เวซเนส ในสก๊อตแลนด์  เดิมทีต้องการอยากจะได้สุนัขที่ใจเย็น และซื่อสัตย์ มีความคุ้นเคยกับแหล่งน้ำ และมีความสามารถในการนำสิ่งของกลับมาคืน

     โกลเด้นฯ ชุดแรก ๆ  ที่ได้พัฒนาขึ้นมามีความกระตือรือร้นเป็นอย่างสูงในการเก็บนกเป็ดน้ำที่ยิงได้มาคืนเจ้าของ พัฒนาการขั้นต่อมา  คือการนำเข้าสนามประกวด โกลเด้นรีทริฟเวอร์ (ขนเรียบ) ถูกส่งเข้าประกวดครั้งแรกที่งานประกวด คริสตัล พาเลส  ประเทศอังกฤษ ในปี 1908 ก่อนที่จะนำไปแพร่พันธุ์ที่อเมริกาเหนือแม้จะมีการนำเข้ามาที่นี่ตั้งแต่ปี 1890  อย่างไรก็ตาม ก็ไม่เคยมีการส่งเข้าประกวดเลยจนกระทั่งปี 1920 สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขของอังกฤษรับรองสุนัขพันธุ์โกลเด้นฯ ขึ้นทะเบียนในปี 1903 ขณะนั้นเป็นการรับรองพันธุ์โกลเด้นฯ ประเภทขนเรียบ และได้รับการรับรองจาก AKC เมื่อ เดือนพฤศจิกายน 1925 เดือนกรกฎาคม ปี 19777
AKCรับรองในความเป็นสุนัขที่เชื่อฟังคำสั่งง่ายติดอันดับ 1 ใน 3 สุนัขเชื่อฟังคำสั่งง่าย ระดับต้น ๆ เป็นสุนัขที่มีพละกำลังมาก ใช้ล่าสัตว์ หรือทำงานหนัก ๆปัจจุบันจัดเป็นสุนัขที่ทำประโยชน์ได้จริง ๆ ตามฟาร์มปศุสัตว์ และเป็นสุนัขนำทางคนตาบอด

     Golden  Retreiver จัดอยู่ในกลุ่ม Sporting  group สุนัขในกลุ่มนี้จะมีจมูกที่ไวเป็นเลิศ มันจะสามารถดมกลิ่นติดตามเหยื่อของมัน จนพบ  และบอกนายของมันว่า นกทั้งหลายอยู่ที่ใดได้  อีกทั้งสามารถนำพานายของมันไปยังซากนกที่ถูกยิงแล้ว ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ การกระทำนี้จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์สุนัข Retrievers ( ได้คืนมา  นำกลับมา )  สุนัขในกลุ่มนี้มักจะชอบว่ายน้ำ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายในการที่จะนำเหยื่อซึ่งตกน้ำกลับมาให้นายของมัน ใช้ในเกมกีฬาล่าสัตว์ โดยใช้ในการคาบเหยื่อที่ถูกยิงมาให้  กลุ่มนี้มีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน เช่น ลาบราดอร์รีทริฟเวอร์ ,  พอตเตอร์  ฯลฯ สีขนของโกลเด้นฯ  ที่เราเห็นกันอยู่มีการพัฒนามาเรื่อย ๆ   จากสีทองกลาง ๆ ไปสู่สีทองเข้ม  และสีทองแดง เช่นกับโกลเด้นฯ ที่เป็นที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบันตามสนามประกวด สีจะออกเป็นโทนสว่าง โกลเด้นรีทริฟเวอร์ในปัจจุบันเป็นสุนัขที่สวยสง่าพันธุ์หนึ่ง ขี้เล่น  นิสัยดี ไม่ก้าวร้าว นัยน์ตาเข้มสวย หางพวง ขนพริ้ว สุภาพ รักสงบ   เข้ากับคนได้ง่าย  และเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

( คัดลอกจากหนังสือ สีสันสัตว์เลี้ยง ปีที่ 2 ฉบับที่ 17 เดือนธันวาคม ปี 44 หน้า 49 บทความ สีสันเจาะตำนาน )